วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557

[Fic] Onee-san daisuki! (Miyuki+sayaka,Paru+yui)[Rate-R] nc milknee from chapter7






รอยเริ่มจางแล้วนะ แบบนี้คงต้องทำใหม่ซะแล้วสิ เลือดพลันสูบฉีดเข้าที่ใบหน้านวล คนฟังทำอะไรไม่ได้นอกจากเบี่ยงหน้าหลบ เมื่อทำแบบนั้นคนรุกรานที่หาช่องทางอยู่ก็โน้มศีรษะเข้าสูดซุกไซ้สูดกลิ่น


กลิ่นกายหวานหอมติดจมูกปนกลับกลิ่นเหงื่อของร่างบาง ส่งผลให้เลือดทุกหยดในกายของมิยูกิราวกับกำลังเดือดพล่านทุกอณูราว เธอขนลุกเกรียว ปลายจมูกไล้สัมผัสฝังที่ผิวเนื้อบอบบาง ซุกไซ้ไม่หยุด


ซายากะ..อา...เธอใช้น้ำหอมด้วยเหรอ...ฉันชอบจังกลิ่นนี้..


แล้วเหมือนกกหูซายากะจะพลันตื้อชาขึ้นมาเสียเฉยๆ ลมหายใจกะลิ้มกะเหลี่ยเป่ารดที่ซอกคอ อาการร้อนรุ่มที่ยังไม่สร่างเบาตั้งแต่เที่ยงที่มิยูกิล่วงล้ำนั้น เริ่มตีตื้นทำพิษ อุณภูมิเรือนกายค่อยๆปรับเพิ่มดีกรีอย่างเชื่องช้า


ห..ห้ามทำรอย อย่า อ..ออกไป...ทำไมเธอบ้ากา..อ๊ะ


ฟอดดด!!

คนเสียเปรียบที่เอ่ยห้ามเสียงพร่า หลุดเสียงอุทานไม่ได้ศัพท์ยามเมื่อพวงแก้มถูกคนที่เคลื่อนตัวขึ้นมาเสมอตัวด้วยความรวดเร็ว ฝังจมูกรั้นๆสูดลมหายใจทีเผลอดังฟอดอยู่ข้างแก้ม


ฉ่า..

ซายากะรู้สึกเหมือนดวงหน้าร้อนไหม้


..ก็ได้ ฉันได้ยินที่พวกผู้ชายในห้องพูดกันเรื่องนี้ เธอถูกมองไม่ดีเท่าไหร่..เปลี่ยนเป็นจูบแทนก็ได้..ว่าแต่ปากเธอหายเจ็บรึยังล่ะ?


ยังซายากะรีบโกหก ดวงหน้าหวานพลันงอง้ำ


ฉันอยากจูบเธอจะแย่ ให้ตายสิ...ก็ได้ถ้าเธอยังเจ็บอยู่ ความผิดฉันเอง..

ต่อว่าตัวเองเสร็จสรรพพลางเคลื่อนลำตัวลงต่ำ มือข้างที่ว่างเลื่อนเข้าปลุดกระดุมของซายากะ


แล้วเธอจะทำอะไรน่ะ..หัวใจดวงน้อยวูบไหวร่วงลงตาตุ่มอย่างไม่น่าเป็นไปได้สักนิด รูม่านตาสีเข้มขยายกว้าง มือน้อยที่ถูกจับกุมเหนือหัวเริ่มจะพยายามขัดขืนออกจากมืออุ่นที่จับยึดแน่นราวกับเห็นเธอเป็นนักโทษ


ยิ่งซายากะเห็นตำตาว่า มือขาวแหวกเครื่องแบบส่วนบนออก ซ้ำยังเลิกบราเซียที่เธอสวมใส่ขึ้นสูง เธอยิ่งรู้สึกว่าหน้าชักจะชามากขึ้นเรื่อยๆ สายตากระหายอยากขณะที่มองมาที่ทรวงอกอิ่ม ทำให้เจ้าตัวต้องบังคับตัวเองให้มองออกไปทางอื่นแทบไม่ทัน


ปลายถันสีชมพูปรากฏออกมาให้เห็น ในเมื่อมิยูกิจูบที่ปากกระจับนุ่มก็ไม่ได้ ทำรอยที่ผิวอ่อนอันหอมกรุ่นกลิ่นนั่นก็ไม่ได้ มันก็ต้องมีสิ่งอื่นมาชดเชย


มิยูกิ...ซายากะหันมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตามาดร้าย ขู่ฟ่อ หากเป็นแมวคงพองขนน่าดูชม


ในเมื่อมือไม่อาจดิ้นหลุด นี่คือสิ่งที่เธอพอจะทำได้...

มิยูกิยิ้มหวานละไมไม่ได้คิดจะถอยหลังกลับเพราะอาการขู่น่ารักน่าชังของซายากะ เผยอเรียวปาก อ้างับปรายถันสีสวยที่น่าลิ้มลองว่าจะหวานปากขนาดไหน ละเลงสัมผัสนุ่มลิ้นไปมาในโพรงปาก คนถูกรุกรานอย่างหนักหน่วงเกร็งตัวรับ สัมผัสร้อนรุ่มจากก้อนเนื้ออุ่นชื้นพลันส่งผลให้สมองขาวโพลน


..อะ.อื้อ.


เมื่อฟันคมขบเฉียดราวกับอีกฝ่ายจงใจกลั่นแกล้ง ซายากะรู้สึกราวกระดูกถูกถอดไปจากร่างกาย ร่างกายที่นอกจากจะร้อนวูบวาบตามจังหวะที่ก้อนเนื้ออุ่นชื้นพึงกระทำต่อยอดอก บัดนี้พลันอ่อนระทวยยวบยาบจนเข่าซายากะแทบทรุดร่วง


ท่าไม่ติดว่าท่อนแขนอุ่นของคนอุกอาจเกี่ยวเอวเอาไว้เหมือนจะรู้ล่วงหน้า


ฮืม หวานจังเลย
มิยูกิครางในคออย่างพึงพอใจถึงขีดสุด ก่อนจะผละออกมาเพื่อจัดการลำดับถัดไปอย่างไม่รีรอ แรงปรารถนาโหมกระพืออย่างน่ากลัวทีเดียว


มือเรียวไล้ลงต่ำ ปลดเกี่ยวตะขอกระโปรงจนมันร่วงกองไปบนพื้น ก่อนจะตามมาด้วยอันเดอร์แวร์ชิ้นน้อยแทบจะทันที


เมื่อท่อนแขนผละออกจากเอวบาง ร่างคนอ่อนปวกเปียกก็เลื่อนไถลลงนั่งกองไปกับพื้น มิยูกิแย้มรอยยิ้มพึงใจก่อนจะเลื่อนตัวลงมาสมทบ


บัดนี้สองมือของซายากะเป็นอิสระ ดังนั้นเธอจึงดันอกมิยูกิออกด้วยแรงทั้งหมดที่มีเหลือ แม้จะร่อยหรอจนน่าขัน เป็นการพยศเล็กๆที่ทำให้คนหน้าหวานยิ่งยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด


...เสียวมากเลยเหรอ..หื้มม..?


ยั่วโมโหพี่สาวไปพลางๆ มือไล้ต้นขาเนียนนุ่มไปมา ซายากะเม้มปากแน่น เคลื่อนมือป่ายนาบหลังมาที่ไล้ต้นขาเธออย่างจาบจ้วง แต่ด้วยความที่ไร้เรี่ยวแรง สิ่งที่ทำจึงยิ่งไปยั่วมิยูกิเสียมากกว่า


นัยน์ตาคมสวยสั่นระริก ความเกลียดชังตัวเองโหมเข้าทำร้าย ด้วยร่างกายอันแสนทรยศนี้


นิ้วเรี่ยวยาวไล้ต้นขาลื่นมือไปมาพักใหญ่จนพอใจจึงเคลื่อนเข้าสัมผัสปากทางที่เอ่อล้นด้วยน้ำหวานของซายากะ จนกายบอบบางสะดุ้งเฮือก


อ๊ะ..”
ซายากะชักควบคุมร่างกายตนเองไม่ได้ ยามเมื่อนิ่วเรียวยาวนวดคลึงติ่งเนื้อนุ่ม ก่อนนิ้วเรียวจะแทรกเข้ามากลีบกุหลาบจนสุดโคนนิ้ว


แรงปะทะทวีไปตามลำดับ ร่างบางเงื้อหน้าสูง มือน้อยที่วางแถวเรียวแขนที่มีรอยข่วนประดับ เลื้อยมาโอบรัดแผ่นหลังคนรุกรานด้วยสติอันเลือนลาง


อืออ..อือ..


เป็นอีกครั้งที่ซายากะจำต้องกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงครางหวาน ได้แต่ครวญครางระงมในลำคอ มิยูกิเริ่มรู้สึกหงุดหงิด เรียวนิ้วที่ซอยเข้าไปภายในตัวของอีกฝ่ายค่อยๆชะลอความเร็วลง จนคนถูกกลั่นแกล้งหันมองช้อนสายตาด้วยนัยน์ตาหวานฉ่ำด้วยความทรมาน


ฉันอยากจะฟัง นี่เธอแกล้งกันใช่มั้ย..


กะ..แกล้ง..อ.อะไรน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นตอบโต้กลับ


ทำไมเธอถึง!...ฮึ..เผอิญคุณน้าบอกว่าเธอทำเค้กเป็น..ฉันอยากกิน เย็นพรุ่งนี้เธอต้องทำให้ฉันชิมนะมิยูกินึกเรื่องที่คุณน้าพูดกับพ่อเมื่อวานที่โต๊ะทานอาหารมื้อเช้าขึ้นมาได้ เธออยากชิมฝีมืออีกฝ่ายจริงๆ


อย่.า..สั่ง..ฉันนะ


ทรมานมั้ย ไม่อยากให้ฉันช่วยเหรอ ฉันเต็มใจนะ ถ้าเธอตอบตกลง..เพราะฉันอยากกินจริงๆ


ดวงตาสีนิลเอ่อคลอ ภาพพร่ามัวไปหมดด้วยม่านน้ำตาบดบัง เธอไม่เคยต้องการให้คนที่เกลียดแสนเกลียดมาชิมฝีมือเธอ เธอต้องการให้คนพิเศษต่างหากที่ให้ได้สิทธิพิเศษเหล่านั้น


..ทำไมเธอถึงเลวขนาดนี้ มิยูกิ..


บอกแล้วไงว่า ห้ามร้องไห้มิยูกิเอ่ยเสียงเข้ม รู้สึกจุกเหมือนโดนหมัดหนักๆต่อยเข้าลิ้นปี่


..มัน..ฮึก.ก.เรื่อง..ของฉันน้ำตาไหลอาบแก้มกระจ่าง


...ดื้อ!! ทำไมถึงดื้อขนาดนี้ซายากะ..


มิยูกิคิดอย่างเดือดดาล ก่อนจะขยับข้อมือเร็วขึ้น ซอยนิ้วถี่ยิบจนซายากะผวาข่วนแผ่นหลังที่โอบไว้หลวมๆอย่างลืมตัวด้วยความเสียวซ่านที่กำลังจะถึงจุดพีคในไม่ช้า


อ๊ะๆ..ระ.แรง..แรงอีก.จวนเจียนจะแตะสวรรค์รอมร่อ กลีบปากที่สู้กัดเอาไว้เสียนานจนขึ้นห้อเลือดเผยอเปล่งเสียงยั่วเย้ามิยูกิอย่างหนัก


ดวงหน้าที่เงื้อขึ้นสูงบิดเบี้ยว เหงื่อกรำชื้น ร่างบางสั่นสะท้าน มิยูกิเผลอส่งเสียงซี๊ดปากแผ่วๆยามเมื่อรู้สึกถึงร่างกายของซายากะตอดรัดนิ้วตนเป็นจังหวะถี่กระชั้น


ถือว่านั่นเป็นการตกลงนะมิยูกิเหยียดยิ้มละมุน ถอนนิ้วเรียวออกมา


คนฟังตัวชาแม้ ผลักบ่าอีกฝ่ายออกอย่างแรงจนมิยูกิเบิกตากว้างและเกือบจะเสียหลักล้มก้นจ้ำเบ้า ซายากะเอื้อมมือหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นมาสวมใส่อย่างรีบเร่ง


มันเปรอะแน่ะ นี่..ซายากะเธอจะรีบไปไหนนักฮะ!”นัยน์ตาหวานเหลือบไปเห็นต้นขาเรียวที่มีคราบน้ำรักสีขุ่น หลังหยัดตัวยืนตรง เรียวแขนอ้อนแอ้นก็เคลื่อนเข้าโอบเอวน้อยเข้ามาแนบชิด เอามือไล้น้ำหวานที่เปรอะต้นขาด้านในของซายากะขึ้นมากลืนกิน


....


จะตายใช่มั้ยถ้าอยู่ใกล้ฉันนานๆ
มืยูกิหายใจฮึดฮัด หลังมือสะอาดดีแล้วก็เคลื่อนลง สวมกระโปรงของร่างในวงแขนที่ยอมอยู่นิ่งๆ





วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

[Fic] Onee-san daisuki! (Miyuki+sayaka,Paru+yui)[Rate-R] nc milknee from chapter3



.
.
.

อา..ดูสิ...เธอก็มีอารมณ์นี่นา..มิยูกิเอ่ยเสียงพร่าออกแรงเคล้นคลึงอกอูมมือทั้งเนื้อผ้า เธอรู้ได้ทันทีว่าซายากะโนบรา เพราะมันหยุ่นนุ่มมือเหลือเกิน ทั้งยังสัมผัสได้ว่าบางอย่างมันกำลังแข็งสู้มือเธออยู่อีกด้วย

คนถูกล่วงละเมิดที่จุดอันบ่งบอกถึงความเบ่งบานของวัยสาว หลับตาหนีภาพตรงหน้าจนน้ำตาที่เอ่อคลอไหลล้นผ่านหางตา มิยูกิเห็นทุกอย่างแต่หักห้ามตัวเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เธอเลิกเสื้อเชิ้ตสีหวานขึ้น นิ้วไล้สะกิดไปมาตรงยอดอกสีสวยที่ชูชันรับสัมผัสก่อนหน้า

อ๊ะ
คนใต้ร่างหลุดครางเสียงดัง แอ่นอกเข้าหามือของอีกฝ่าย พอเห็นแบบนี้มิยูกิก็แทบจะคลั่งตาย ไล้ฝ่ามือลงร่นกางเกงขาสั้นที่ซายากะสวมอยู่ด้วยความเชื่องช้า เนิบนาบ เพื่อเพิ่มความรัญจวน แล้วไม่นานเกินรอกางเกงขาสั้นตัวน้อยก็มีอันต้องหลุดพ้นจากสะโพกมน

 ฮึกก..อย่ามองนะ..อย่ามอง..ซายากะลืมตาโพล่งเมื่อรู้สึกว่าอาภรชิ้นล่างถูกรูดออกไปพ้นเรียวขาตน กลีบปากสีสดที่สั่นด้วยความกลัวก็อ้าปากเผยอบอกคนที่คร่อมทับเสียงแหบแห้ง

ถ้าเธออาย ฉันหลับตาก็ได้...แต่เธอต้องเรียกชื่อฉันเป็นการแลกเปลี่ยน เวลาฉันสั่ง ถ้าฉันอยากจะได้ยิน...
คนรุกรานพลันหลับตาตามที่พูด แต่มือก็ยังเลื่อนเข้าไล้ต้นขาด้านในของคนใต้ร่างไปมาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ตามมาด้วยนิ้วเรียวยาวลูกไล้ไปที่เนินนุ่มที่ขณะนี้มีแค่ผ้าบางๆขวางกั้นเอาไว้เท่านั้น

ร่างบางสั่นสะท้านขึ้นมาอีกระรอก จุดอ่อนไหวที่ฉ่ำเยิ้มด้วยเมือกใส ทำให้คนกระทำตระหนักว่าถึงเวลาครอบครองซายากะเสียแล้วกระมัง นิ้วเรียวไล้ปากทางฉ่ำเยิ้ม ก่อนสอดมือเข้าผ่านชั้นในที่ขวางกั้นโดยไม่คิดจะถอด

อะ! ฮือออ..มันเจ็บนะมือเล็กขยับโดยอัตโนมัติ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะถูกมัดไว้เหนือหัวซายากะรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมที่แหวกเข้ามาในร่างกายตน ความรวดร้าวทำให้หัวใจยิ่งเต้นกระหน่ำในอกด้วยความหวาดกลัวจับใจ

มิยูกิเข้ามารวดเดียวจนร่างบางปล่อยโฮ นิ้วเรียวที่รุกล้ำในช่องทางที่ตอดรัดแน่นแช่ค้างเอาไว้เพราะเธอใจหายไม่น้อยที่ทำอีกฝ่ายร้องไห้ ดวงตาค่อยลืมขึ้นมามองหน้าอีกฝ่ายด้วยความวิตกกังวล

มองหน้าฉันสิ ด่าฉัน หรืออะไรก็ได้ที่เธออยากจะทำ เอาคืนฉันสิ ด่ากันแรงๆก็ได้ เชิญตามสบาย แต่อย่าร้องไห้..ห้ามร้อง
มิยูกิเอ่ยเสียงเข้ม ค่อยๆขยับนิ้วที่แช่ค้างชักเข้าชักออก แต่ด้วยมวลความแน่นทำให้จังหวะยังคงนาบเนิบ

..ฮืออ..ฉันเกลียดเธอ..ฮึกก..เกลียด ทะ ที่สุด อ๊ะ..
จังหวะที่ค่อยๆทวีความหนักหน่วง ทำให้ซายากะที่เผลอหลุดเสียงครางน่าอายรีบขบกลัดกลีบปากนุ่มของตนเพื่อไม่ให้มันเล็ดลอดออกไปอีกเป็นครั้งที่สอง

ตะ ตอดแน่นจัง..มิยูกิคำรามเสียงพร่า ความพึงพอใจพุ่งสูง
เธอคิดว่าตอนนี้ปลอดภัยแล้วแน่ๆ หากจะปล่อยพันธนาการ พิจารณาครู่หนึ่งมิยูกิจึงเคลื่อนมือปลดแอกเนกไท ซายากะผวาเกาะบ่าร่างเบื้องบน ขยุ้มบ่าจนเครื่องแบบของมิยูกิเสียยับ จิกเล็บแน่นแทบทันทีที่ข้อมือไม่ได้ถูกรัดรึง

ส่วนมืออีกข้างเลื่อนมาปิดปากตัวเองด้วยแรงเท่าที่พอจะมี ความรู้สึกบางอย่างกำลังแผ่ซ่าน เป็นความแปลกใหม่ที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิต

..อือ..อืออ..แต่ยังไม่วายส่งเสียงครวญครางในลำคอ

ซายากะ..อย่ายั่วฉันเพิ่มได้มั้ย ถ้าเธอไม่อยากเพิ่มรอบน่ะ..
มิยูกิดุ เห็นแบบนี้เธอยิ่งร้อนรุ่ม ดวงหน้าคนเบื้องล่างเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อตามไรผมที่เริ่มผุดขึ้นมา ไหนจะดวงตาเรียวคมสวยๆนั่นที่ปรือตาเหมือนจะใกล้ถึงฝั่งฝันไปทุกที เห็นแล้วของขึ้น..

มือน้อยเลื่อนหลุดจากปากตน แรงกระทำยิ่งถี่รัวจนซายากะรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง มือข้างที่เลื่อนหลุดค่อยๆเงื้อสูงเข้าประคองแนบแก้มมิยูกิ

..ฉันเตือนแล้วนะ..
จบคำกร้าว ศีรษะของมิยูกิพลันโน้มต่ำเพื่อประกบกลีบปากแดงเรื่อ แทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากนุ่ม มือสองข้างของซายากะเคลื่อนมากอดรัดคอมิยูกิ ก่อนเจ้าตัวจะค่อยๆโอนอ่อนผ่อนตามจูบตอบไปแบบเงอะๆงะๆเพื่อดับความเสียวซ่าน

..พะ พอแล้ว..คนใต้ร่างเบี่ยงหน้าหลบจูบหนักหน่วง แต่กลิ่นคาวเลือดจากรสจูบดุดันดังกล่าวยังเค็มปร่าอยู่ในปาก ซายากะรู้สึกว่ากลีบปากตนบวมเจ่อ แถมริมฝีปากล่างยังปวดหน่วงอีกด้วย

“..ฮืมม อะ
ไม่นานซายากะก็กระตุกเกร็ง ร่างกายสั่นเทิ้มอย่างห้ามไม่ได้ ช่องทางรักตอดรัดนิ้วของมิยูกิถี่รัว...

ร่างบางพยายามสกัดกลั้นความอ่อนแอ แต่ขอบตามันร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่านิ้วเรียวจะบรรจงปาดเลือดจากกลีบปากล่างให้เบาๆ ความรู้สึกตอนนี้ของเธอมันแย่ราวกับอยู่ในนรก

ขอนอนทั้งแบบนี้นะ..มันอุ่นดี..มิยูกิขออนุญาตพลางเหลือบตาลงมองกลางลำตัวของคนใต้ร่างประกอบคำพูด เธอไม่อยากถอนนิ้วออกจากตัวอีกฝ่าย

และเพราะเจออาการไม่หือไม่อือ จึงเคลื่อนตัวล้มลงข้างๆ ดังรั้งเอวคอดกิ่วของร่างอรชรเข้าหาโดยที่ยังคงมีบางส่วนอย่างเชื่อมติดกับร่างกายของซายากะ

มิยูกิเคลื่อนลำตัวลงเพื่อซุกหน้าเข้าหาอกอุ่นของคนในวงแขน ไม่นานนักก็ผล็อยหลับไป เหลือทิ้งไว้แค่ร่างในอ้อมแขนที่เริ่มกลั้นสะอื้นไม่ไหว จนแล้วจนรอดร่างบางก็ต้านทานอารมณ์แย่ๆไม่ไหวอีกต่อไป ความอ่อนแอโถมใส่เข้าทุกทิศ คอที่ร้อนผ่าวเพราะพยายามกลั้นน้ำตามาพักใหญ่

พลันได้ถูกปลดปล่อยเมื่อซายากะได้มีโอกาสตั้งต้นร้องไห้ โดยที่คอยระวังไม่ให้คนที่กอดตนตื่น
 .
.
.